การบริการวิชาการแก่ชุมชนถือว่าเป็นพันธกิจที่สำคัญประการหนึ่งของคณะวิทยาศาสตร์
ที่จะต้องนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มาถ่ายทอดสู่ชุมชน
ตลอดจนสามารถนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ นอกจากนี้
การบริการวิชาการแก่ชุมชนหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถ่ายทอดองค์ความรู้หรือบริการวิชาการสู่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ก็สามารถสร้างรายได้ให้แก่คณะวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งการสร้างรายได้จากการบริการวิชาการแก่ชุมชนนับว่าเป็นนโยบายที่สำคัญของคณะวิทยาศาสตร์ในด้านการพึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต
คณะวิทยาศาสตร์ให้บริการวิชาการแก่สังคมหลายรูปแบบ
(ดูภาคผนวกที่ 2) ได้แก่
(1) การถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์
- หลักสูตรการอบรมระยะสั้น
- วิทยากรรับเชิญ
- สิ่งตีพิมพ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
(2) การบริการด้านเทคนิค
- การให้คำปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคนิค
- การให้บริการระดับอาชีพ
(3) การเผยแพร่ผลงานทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
- การจัดแสดงนิทรรศการ
- การจัดประชุมระดับชาติ และนานาชาติ
- การจัดสัมมนา
คณะวิทยาศาสตร์ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกหลายหน่วยงาน
อาทิ โครงการอบรมครูร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
โครงการค่ายโอลิมปิกวิชาการร่วมกับมูลนิธิ สอวน. โครงการความร่วมมือในการพัฒนาโรงเรียนร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี เป็นต้น
สถานบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สถานบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สวท-มช) ได้เริ่มดำเนินการมาตั้ง แต่ปี 2543 โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะวิทยาศาสตร์
บริหารงานโดยผู้อำนวยการสถานบริการวิทยาศาสตร์ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการวิชาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ตลอดจนสร้างความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย
และเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการให้บริการไปใช้ในการพัฒนาและเสริมสร้างคุณภาพทางวิชาการของคณะวิทยาศาสตร์ในทุก
ๆ ด้าน
ผลการดำเนินงานในปี 2545 มีดังนี้
1. การบริการด้านการวิเคราะห์ ทดสอบและสอบเทียบ
สวท-มช โดยได้รับการสนับสนุนด้านครุภัณฑ์จากคณะวิทยาศาสตร์ สำหรับให้บริการทางด้านจุลชีววิทยา
ส่วนการวิเคราะห์อื่น ๆ ได้รับความร่วมมือจากภาควิชาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในคณะวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ยังให้บริการด้านกล้องจุลทรรศนอิเล็กตรอน (ดูรายละเอียดการให้บริการวิเคราะห์จาก
ภาคผนวกที่ 17)
2. งานเทคโนโลยีสิ่งพิมพ์ ได้ให้บริการแก่องค์กรของภาครัฐและเอกชนทั้งในภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย
3. นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ได้ขอจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรจากรมทรัพย์สินทางปัญญาดังนี้
- "กรรมวิธีการทำธูปหอมจากเปลือกลำไย"
หัวหน้าโครงการ ผศ.ดร. นวลศรี รักอริยะธรรม จากภาควิชาเคมี
- สิทธิบัตรประดิษฐ์ "อุปกรณ์เก็บรวบรวมน้ำยางมะละกอ"
ผู้ประดิษฐ์ รศ.ดร.ภาวิณี คณาสวัสดิ์ จากภาควิชาเคมี และคณะ
- สิทธิบัตรประดิษฐ์ "วิธีการทำแห้งน้ำยางมะละกอด้วยกระแสลมร้อนในแนวราบเพื่อการผลิตปาเปน"
ผู้ประดิษฐ์ รศ.ดร. ภาวิณี คณาสวัดิ์ จากภาควิชาเคมี และคณะ
- สิทธิบัตรประดิษฐ์ "เตาอบลมร้อน"
ผู้ประดิษฐ์ รศ.ดร. ภาวิณี คณาสวัสดิ์ จากภาควิชาเคมี และคณะ
- งานอยู่ระหว่างขออนุสิทธิบัตร "การเตรียมสีย้อมโครโมโซมจากสารสกัดข้าวเหนียวดำ"
หัวหน้าโครงการ ผศ. หัทยา กาวีวงศ์ จากภาควิชาชีววิทยา
การจัดทำวารสารและจุลสาร
คณะวิทยาศาสตร์
ได้จัดทำวารสารเพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ CHIANG MAI JOURNAL
OF SCIENCE เป็นวารสารที่มีกำหนดพิมพ์ทุก 6 เดือน จัดเป็นวารสารที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
โดยได้รับการบรรจุไว้ในฐานข้อมูล Chemical Abstracts จึงกล่าวได้ว่า
วารสารนี้เป็นเวทีหนึ่งของนักวิจัยทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นอกจากนี้ คณะวิทยาศาสตร์ได้จัดพิมพ์จุลสาร "วิทยาสาร" เป็นประจำทุก
2 เดือน เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แก่ชุมชน โดยจัดส่งให้แก่โรงเรียนต่างๆ
ในเขตภาคเหนือ และส่วนราชการ นอกจากนี้ ยังได้บรรจุจุลสารดังกล่าวลงใน
web site ของคณะวิทยาศาสตร์ www.science.cmu.ac.th
|