1. ชื่อห้องปฏิบัติการวิจัย

อาคารวิจัยนิวตรอนพลังงานสูง

FAST NEUTRON RESEARCH FACILITY

ภาควิชา : ฟิสิกส์

2. สมาชิก : ประกอบด้วย

ปรึกษา : นายประสิทธิ์ เจริญขวัญ (ศ. ดร.)

คณาจารย์ :

1. นายถิรพัฒน์ วิลัยทอง (รศ. ดร.) ผู้ประสานงานห้องปฏิบัติการวิจัย

2. น.ส. สุภาพ ณ เชียงใหม่ (รศ.)

3. นายนรา จิรภัทรพิมล (ผศ. ดร.)

4. นายวิวัฒน์ ตียาสุนทรานนท์ (ผศ.)

5. นายสมศร สิงขรัตน์ (รศ. ดร.)

6. นายการ์เน็ต ฮอยซ์ (อาจารย์พิเศษชาวต่างประเทศ)

7. น.ส. ดุษฏี สุวรรณขจร (อาจารย์)

8. นายธีวรรณ บุญญวรรณ (อาจารย์)

9. นายอุดมรัตน์ ทิพวรรณ (อาจารย์)

10. นายประดุง สวนพุฒ (อาจารย์)

นักวิทยาศาสตร์

11. นายเสวต อินทรศิริ

12. นายบุญรักษ์ พันธ์ไชยศรี

13. นายสตานิสลาฟ ดาวิด็อฟ (ดร.)

14. นายยู เหลียงเติ้ง (ดร.)

15. นายไมเคิล โรดส์

เทคนิคเชี่ยน

16. นายราเชนทร์ เจริญนุกูล

17. นายสมศักดิ์ วรรณชัย

18. นายโฉม ทองเหลื่อม

19. นายปถม วิชัยศิริมงคล

20. นายศักดิ์ชัย อ่ำแก้ว

21. นายไพโรจน์ การคนซื่อ

22. นายสุวิชา รัตนรินทร์

23. นายวิฑูร อะโน

24. นายประชัน อภิวงศ์

25. นายระเบียบ สุวรรณโกสุม

26. นายทองสุข กลัดภิรมย์

เลขานุการ/ธุรการ

นางสุมัทนา ธารารักษ์

นางปรียาพร อินทะวัน

นักการ

นายปิ่น บุญธรรม

3. หลักการและเหตุผล

วิชาฟิสิกส์นิวเคลียร์มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวหลายประการด้วยกัน ที่สำคัญได้แก่

- ประมวลความรู้ยังไม่เป็นที่เข้าใจถ่องแท้ครบถ้วน

- คำอธิบายต้องใช้ทั้งคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ขั้นสูงที่ท้าทาย

- มีศักยภาพทั้งทางด้านสร้างสรรและทำลาย

วิธีการศึกษาวิชาฟิสิกส์นิวเคลียร์แบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ก็คือการกระตุ้นนิวเคลียสด้วยอนุภาคนิวตรอนพลังงานสูง ทั้งนี้เพราะนิวตรอนเป็นอนุภาคที่มีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้า จึงสามารถเจาะลึกเข้าไปในนิวเคลียสได้ทุกระดับพลังงาน วิธีการผลิตรังสีนิวตรอนพลังงานสูงวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วโลกอีกทั้งยังมีต้นทุนต่ำกว่าวิธีอื่น ๆ ก็คือโดยการใช้เครื่องกำเนิดรังสีนิวตรอน (Neutron Generator).

ในปี พ.ศ. 2514 ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำเครื่องกำเนิดรังสีนิวตรอนเข้ามาใช้เป็นเครื่องแรกในประเทศ และนี่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เท่านั้น แต่ที่สำคัญมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ นับตั้งแต่นั้นมางานวิจัยและการเรียนการสอนในด้านนิวตรอนพลังงานสูง ทั้งในแง่ทฤษฎีและการประยุกต์ก็ได้เติบโตก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ

ในปี พ.ศ. 2534 ห้องปฏิบัติการฯ ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างเครื่องเร่งอนุภาคผลิตรังสีนิวตรอนแบบเป็นห้วงที่กว้าง 2 x 10-9 วินาที [ผลงานนี้ได้รับรางวัลที่ 2 ของผลงานคิดค้น/สิ่งประดิษฐ์ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประจำปี พ.ศ. 2534 จากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 ห้องปฏิบัติการฯ ก็ได้ประสบความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ในการสร้างเครื่องเร่งไนโตรเจนไอออน เพื่อการเคลือบฝังผิวโลหะ (Nitrogen Ion Implanter) [ผลงานนี้ได้รับรางวัลที่ 3 ของรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2538 จากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ]

จวบจนปัจจุบัน การดำเนินงานที่มีผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ได้เป็นที่ประจักษ์แจ้งแล้วต่อวงการวิทยาศาสตร์ไทย ดังจะเห็นได้จากการที่ว่า ในปี พ.ศ. 2538 สภาวิจัยแห่งชาติได้ยอมรับและยกย่องให้ผู้ประสานงานของห้องปฏิบัติการฯ คือ รศ.ดร.ถิรพัฒน์ วิลัยทอง เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขา วิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ ซึ่งยังไม่เคยมีบุคลากรของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้มาก่อนเลย

ณ จุดนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การสนับสนุนอย่างสม่ำเสมอย่อมส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาของบุคลากรและองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง และเข้มแข็งพอที่จะก่อให้เกิดมิติแห่งการพัฒนาเทคโนโลยีข้างเคียงควบคู่ไปด้วย ซึ่งในกรณีนี้ได้แก่เทคโนโลยีสูญญากาศ เทคโนโลยีเครื่องเร่งอนุภาค เทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ เทคโนโลยีการวิเคราะห์และตรวจสอบคุณภาพของวัสดุ ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานของการ พัฒนาวงการอุตสาหกรรมขั้นสูงของประเทศในอนาคต

4. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

4.1 เพื่อรักษาและเพิ่มพูนองค์ความรู้ทางด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์ของประเทศ มิให้สูญหายและ/หรือขาดตอน

4.2 เพื่อนำความก้าวหน้าทางด้านฟิสิกส์นิวตรอนมาประยุกต์ใช้งานในทางด้านการเกษตร การแพทย์ การอุตสาหกรรม ความมั่นคงของประเทศและการเรียนการสอน

4.3 เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีข้างเคียง (Spin-off Technology) อันได้แก่เทคโนโลยีสูญญากาศระดับสูง แม่เหล็กไฟฟ้าความละเอียดสูง พลาสมา และการเคลือบฝังไอออน (Ion Implantation)

4.4 เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศไทยและเผยแพร่ผลงานของนักวิทยาศาสตร์ไทย จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

5. งานวิจัยหลักที่กำลังดำเนินการอยู่

การดำเนินการของห้องปฏิบัติการวิจัยนิวตรอน มี 4 แนวทาง ดังนี้คือ

5.1 การพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือวิจัยเพื่อสร้างเสริมเทคโนโลยีพื้นฐานทางด้านระบบ สูญญากาศ อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์อินเตอร์เฟสและระบบควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ แม่เหล็กไฟฟ้า การเคลื่อนที่ของไอออนและการปรับลำไอออน ซึ่งเป็นพื้นฐานหลักของการพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งในปัจจุบันและอนาคต

5.2 การศึกษาฟิสิกส์นิวเคลียร์พื้นฐาน ทางด้านปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ใช้นิวตรอนเป็นอนุภาค กระตุ้นทั้งในเชิงทดลอง (Pulsed Neutron Time-of- Flight Experiment) และในเชิงทฤษฎี (Nuclear Reaction Calculation)

5.3 การประยุกต์นิวตรอนทางด้านการเกษตรและการแพทย์ และการนำเทคนิคทางด้านนิวเคลียร์มาใช้ในการวิเคราะห์ธาตุ เช่น การวิเคราะห์ปริมาณไขมันสัตว์เศรษฐกิจ หรือการศึกษาชีวฟิสิกส์ ของขบวนการ Neutron Capture Therapy

5.4 การพัฒนาเทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสมบัติเชิงผิว (Surface Modification) ด้วยอนุภาคชนิดต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจนไอออน, อิเล็กตรอน, และพลาสมา

6. อุปกรณ์/เครื่องมือวิจัยหลักที่มีอยู่แล้ว

เครื่องเร่งอนุภาคแบบ Nanosecond Pulsed Beam ระบบแต่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ หัววัดรังสีชนิดต่าง ๆ ระบบเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ฯลฯ มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 30 ล้านบาท

เครื่อง Ion Implanter แม่เหล็กไฟฟ้าความละเอียดสูง (Analysing Magnet) ระบบวิเคราะห์ผิววัสดุ ฯลฯ มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 15 ล้านบาท

7. ผลสัมฤทธิ์ทางด้านการวิจัยจนถึงปัจจุบัน

- ได้พัฒนา 2ns Pulsed Neutron Accelerator สำเร็จ

- ได้สร้างระบบ Collimating และ Shielding ของการทดลอง 12 m Double Differential Cross-section (DDX)Measurement สำเร็จ

- ประสบความสำเร็จในการวัดค่า DDX ของเหล็กและบิสมัท

- ได้พัฒนาเครื่อง Nitrogen Ion Implanter สำเร็จ

- ได้พัฒนาเทคนิคการเปลี่ยนพลังงานของ 14 MeV นิวตรอน โดยใช้วิธี Proton Recoil Converter (ได้แนบผลงานตีพิมพ์ระดับนานาชาติล่าสุดมาด้วยจำนวนชิ้น)

/ / / การวิจัย / ห้องปฏิบัติการวิจัยและหน่วยวิจัย